หมู่เกาะโกโตะถือเป็นดินแดนที่เก็บรักษาเรื่องราวอันล้ำค่าของ “คริสเตียนผู้ซ่อนเร้น” ซึ่งเป็นกลุ่มผู้นับถือศาสนาคริสต์ที่หนีการข่มเหงในช่วงที่รัฐบาลญี่ปุ่นห้ามการนับถือศาสนานี้ พวกเขาเลือกมาตั้งรกรากบนหมู่เกาะแห่งนี้และแอบปกป้องความเชื่อของตนไว้อย่างเหนียวแน่น
ชุมชนและคริสตจักรของชาวคริสต์กลุ่มนี้ได้รับการบรรจุเข้าสู่บัญชีมรดกโลกภายใต้ชื่อ “แหล่งมรดกคริสเตียนผู้ซ่อนเร้นในภูมิภาคนางาซากิและอามาคุสะ” ซึ่งปัจจุบันกำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในฐานะจุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวทางจิตวิญญาณ แตกต่างจากสถานที่ท่องเที่ยวธรรมดาทั่วไป โดยเมืองโกโตะมุ่งเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ระดับพรีเมียมผ่านมรดกโลกแห่งนี้
บทความพิเศษดังกล่าวไม่เพียงแต่บอกเล่าประวัติศาสตร์ของคริสเตียนผู้ซ่อนเร้นเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับวิดีโอที่นำเสนอเนื้อหาน่าสนใจผ่านภาพที่เข้าใจง่าย โดยมีการแนะนำกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของหมู่เกาะโกโตะ รวมถึงความงามของธรรมชาติและประสบการณ์การรับประทานอาหารที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษของท้องถิ่น
นอกจากนี้ เมืองโกโตะยังได้เริ่มผลิตวิดีโอ “Media Footage” ที่รวบรวมภาพทิวทัศน์สวยงาม สิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ และกิจกรรมเชิงประสบการณ์หลากหลายของหมู่เกาะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้สื่อมวลชนสามารถนำไปใช้งานได้ง่ายขึ้น
เมืองโกโตะ จังหวัดนางาซากิ ได้วางแผนที่จะประชาสัมพันธ์เรื่องราวของคริสเตียนผู้ซ่อนเร้น แหล่งมรดกโลก ความสวยงามของธรรมชาติ และอาหารพื้นเมืองที่โดดเด่นของหมู่เกาะโกโตะไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “หมู่เกาะโกโตะ สวรรค์ซ่อนเร้นแห่งญี่ปุ่น” โดยจะนำเสนอการเดินทางสุดพิเศษเพื่อค้นหาเสน่ห์อันลึกล้ำของหมู่เกาะโกโตะ “สวรรค์อันบริสุทธิ์” เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสแก่นแท้ของญี่ปุ่นอย่างสงบเงียบโดยไม่ต้องเบียดเสียดกับกลุ่มนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
เมืองโกโตะตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของหมู่เกาะโกโตะ เป็นเทศบาลที่ประกอบไปด้วยเกาะใหญ่สามแห่ง คือ เกาะฟุกุเอะ เกาะนารุ และเกาะฮิซากะ รวมถึงเกาะเล็กใหญ่อีกกว่า 60 เกาะ จุดเด่นของเมืองนี้เกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์แห่งความเชื่ออันลึกซึ้ง ซึ่งรวมถึงองค์ประกอบของมรดกโลกทางวัฒนธรรม “แหล่งมรดกคริสเตียนผู้ซ่อนเร้นในภูมิภาคนางาซากิและอามาคุสะ” ทะเลสีฟ้าใสที่ติดอันดับความใสที่สุดในญี่ปุ่น และวัฒนธรรมอาหารที่หลากหลายมากมาย เมืองโกโตะยังมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่มากนัก และพร้อมเปิดรับทุกท่านสู่ “สวรรค์อันบริสุทธิ์” ที่สามารถเพลิดเพลินกับความงามแท้จริงของญี่ปุ่นได้อย่างสบายใจและผ่อนคลาย