การจัดงานครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างสหพันธ์สมาคมการแพทย์แผนจีนโลกในส่วนของคณะกรรมการเฉพาะทางด้านโรคในระบบเส้นลมปราณย่อย กับสมาคมแพทย์แผนเวียดนาม โดยมีประเด็นหลักที่น่าสนใจคือการนำทฤษฎีลั่วปิ้งมาใช้ในทางคลินิกสำหรับโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ต่อมไร้ท่อ ระบบทางเดินหายใจ มะเร็ง และแม้แต่การชะลอวัย
เจือง เวียด บิ่ญ ผู้ดำรงตำแหน่งประธานสมาคมแพทย์แผนเวียดนาม ได้กล่าวปาฐกถาในพิธีเปิดว่า ทฤษฎีลั่วปิ้งเป็นมรดกทางวิชาการที่มีคุณค่ายิ่ง ไม่เพียงแค่สามารถต่อยอดและนำไปประยุกต์ในระบบการแพทย์สมัยใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการพัฒนาภูมิปัญญาการแพทย์โบราณให้ทันสมัยและเข้ากับยุคสมัย ซึ่งประเทศต่าง ๆ รวมถึงเวียดนามได้ประสบความสำเร็จในการดำเนินการด้านนี้
การประชุมยังได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์อู่ อี้หลิง จากสถาบันบัณฑิตวิศวกรรมศาสตร์จีน ที่เข้าร่วมผ่านระบบออนไลน์และนำเสนอบทความวิชาการเกี่ยวกับวิวัฒนาการของทฤษฎีลั่วปิ้งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ศาสตราจารย์อู่ได้แชร์ผลการศึกษาที่แสดงให้เห็นถึงการนำทฤษฎีเส้นลมปราณย่อยมาใช้ในการป้องกันและบำบัดโรคหลอดเลือด การใช้ทฤษฎีลมปราณและเส้นลมปราณย่อยในการจัดการปัญหาทางระบบประสาท ต่อมไร้ท่อ และภูมิคุ้มกัน รวมถึงการวิจัยด้านการชะลอวัยที่อาศัยทฤษฎีลมปราณ (Essential Qi Theory) เป็นรากฐาน
หนึ่งในไฮไลต์ของการประชุมคือ การเปิดตัวแนวปฏิบัติใหม่ในการวินิจฉัยและรักษาโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังโดยผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดการบูรณาการการดูแลรักษาโรคหัวใจและโรคปอดด้วยหลักการของการแพทย์แผนจีนอย่างครบวงจร