ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์และผลงานจัดแสดง
งานในปีนี้ยังคงได้รับเกียรติจากผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลก ริชาร์ด เทย์เลอร์ (Richard Taylor) และทีมนักออกแบบแสงสีนานาชาติ รวมถึงทีมจากสิงคโปร์ มาร่วมสร้างสรรค์ผลงาน โดยมีการจัดแสดงผลงานศิลปะแสงสีและประติมากรรมขนาดใหญ่เกือบ 60 ชิ้น ซึ่งเป็นความร่วมมือกับสมาคมศิลปินประติมากรรมเมืองจีน และสถาบันศิลปะชั้นนำของจีน 8 แห่ง
สถานที่จัดแสดงหลักและจุดน่าสนใจ
สถานที่หลักของเทศกาลคือบริเวณ แม่น้ำเหลียงหม่า ริมสองฝั่ง และสวนเฉาหยาง ที่จะถูกเนรมิตเป็นดินแดนแห่งแสง ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสกับ:
- การแสดงบนผิวน้ำ: รวมถึงงานติดตั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยแบบอินเตอร์แอคทีฟ เช่น สัตว์เครื่องกลจำลองอย่างวาฬสีน้ำเงินและเพกาซัส ที่สามารถ “ว่ายน้ำ” ข้ามแม่น้ำได้
- โรงละครเชลล์ (Shell Theater): พื้นที่การแสดงกลางแจ้งบนผิวน้ำแห่งแรกของปักกิ่งในสวนเฉาหยาง ซึ่งได้รับการปรับปรุงใหม่และจะเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการในช่วงเทศกาล
- เวทีลอยน้ำ “คิวบ์” (Cube): ตั้งอยู่ในทะเลสาบเหนือ เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายภาพสำคัญริมแม่น้ำเหลียงหม่า
กิจกรรมวัฒนธรรมและความบันเทิง
นอกจากงานแสงสีแล้ว เทศกาลยังเต็มไปด้วยการแสดงทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย เช่น คอนเสิร์ตซิมโฟนี BBC Earth Live, การแสดงแอนิเมชันสำหรับครอบครัวเรื่อง “แกะซ่าฮายกก๊วน” (Shaun the Sheep), และคอนเสิร์ตซิมโฟนีรำลึกภาพยนตร์คลาสสิกฮ่องกง อิน เกอ (Yin Ge) โดยมีการแสดงคุณภาพกว่า 100 รายการ จัดขึ้นควบคู่กับฤดูกาลศิลปะแม่น้ำเหลียงหม่า (Liangma River Art Season) ประจำปี 2568
ยิ่งไปกว่านั้น งานยังได้ร่วมมือกับไอคอนป๊อปคัลเจอร์ยอดนิยมระดับโลกเพื่อสร้างสีสัน อาทิ การสร้างเวที “สตาร์ แบร์” (Star Bear) พิเศษในโซน ป๊อปมาร์ท (POP MART City) และการจัดแสดงป๊อปอัพของ วาคุคุ (Wakuku) ริมแม่น้ำเหลียงหม่า ผู้มาเยือนเฉาหยางในช่วงเทศกาลนี้จึงได้สัมผัสประสบการณ์ที่ผสมผสานแสง ศิลปะ และความบันเทิงเข้ากับบรรยากาศของเมืองได้อย่างน่าสนใจ
ใครไปเที่ยวปักกิ่งอย่าพลาดงานนี้ เพราะจะจัดขึ้นจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้เท่านั้น!