งานนี้มีผู้เข้าร่วมประมาณ 200 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจากแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมการเกษตรทั้งในระดับชาติและระดับโลก รวมถึงผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการจากในประเทศและต่างประเทศ ที่มาร่วมกันหารือแนวทางพัฒนาการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน
กิจกรรมและการจัดการประชุม
การประชุมจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ภายใต้หัวข้อ “การฟื้นฟูมรดกทางการเกษตร การสืบสานอารยธรรมทางการเกษตร และการส่งเสริมการพัฒนาการเกษตรที่ยั่งยืน” มีกิจกรรมหลากหลาย เช่น การกล่าวสุนทรพจน์หลัก การนำเสนอรายงาน การเสวนาคู่ขนาน การเยี่ยมชมนาขั้นบันได และการประชุมส่งเสริมการท่องเที่ยว จุดประสงค์หลักคือการสร้างเวทีแลกเปลี่ยนระดับนานาชาติ เพื่อหาแนวทางอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมการเกษตร แบ่งปันองค์ความรู้เกี่ยวกับการทำนาขั้นบันได และร่วมกันสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
การพัฒนาและอนุรักษ์นาขั้นบันไดของเมืองโหลวตี้
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมืองโหลวตี้ได้เร่งพัฒนาการอนุรักษ์และบริหารจัดการนาขั้นบันไดอย่างต่อเนื่อง พร้อมนำคุณค่าทางวัฒนธรรมของมรดกทางการเกษตรมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับท้องถิ่น โดยมุ่งส่งเสริมการอนุรักษ์นาขั้นบันไดให้เป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม อีกทั้งยังริเริ่มกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ การจัดกิจกรรมเชิงความรู้และวิจัย และการจัดเทศกาลเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้วยการผสมผสานภาคเกษตรกรรม วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้เมืองโหลวตี้สามารถขับเคลื่อนการฟื้นฟูชนบทได้อย่างครบวงจร รวมถึงฟื้นคืนชีวิตให้แก่มรดกทางการเกษตร และช่วยเพิ่มรายได้ให้ชาวบ้านอย่างเป็นรูปธรรม
เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของนาขั้นบันไดจื่อเชว่เจี๋ย
นาขั้นบันไดจื่อเชว่เจี๋ยมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกด้วยทัศนียภาพที่งดงามแตกต่างกันในแต่ละฤดู ในฤดูใบไม้ผลิ แสงแดดที่กระทบผิวน้ำทำให้ผืนนาดูคล้ายริบบิ้นสีเงิน ในฤดูร้อนก็เปล่งประกายคล้ายคลื่นสีเขียว ฤดูใบไม้ร่วงก็สว่างไสวดุจภูเขาทองคำ และในฤดูหนาวก็ทอสีสันที่สวยงาม โดยในปี 2567 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมกว่า 600,000 คน และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวถึง 200 ล้านหยวน
นาขั้นบันไดจื่อเชว่เจี๋ยที่มีอายุนับพันปีได้เปลี่ยนจาก “ทิวทัศน์ที่อุดมสมบูรณ์” เป็น “แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ” และกำลังก้าวเข้าสู่บทบาทใหม่ในการบูรณาการภาคเกษตรกรรม วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวเข้าด้วยกันอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเป็นต้นแบบของการฟื้นฟูชนบทที่ยั่งยืนและงดงาม