“ลองมองหาบริเวณที่เป็นสีดำ มีโอกาสที่จะพบฟอสซิลปลาได้มากที่สุด” ซุน เกอ ประธานกิตติมศักดิ์ของคณะกรรมการ Popular Science Committee ของสมาคมบรรพชีวินวิทยาแห่งประเทศจีน กล่าวขณะนำการสำรวจภาคสนาม และเมื่อเขาให้สัญญาณ เสียงค้อนกระทบหินก็ดังก้องไปทั่วหุบเขาของอุทยานแห่งชาติ ราวกับกำลังปลุกอดีตให้หวนคืนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
ถิ่นกำเนิดไดโนเสาร์
อำเภอเจียอินในมณฑลเฮยหลงเจียงมีประวัติความเป็นมาที่สำคัญในการศึกษาไดโนเสาร์ เมื่อปี พ.ศ. 2445 มีการค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์ครั้งแรกของจีนในพื้นที่นี้ ทำให้พื้นที่แห่งนี้ได้รับขนานนามว่า “ถิ่นกำเนิดของไดโนเสาร์”
ปัจจุบันอำเภอเจียอินได้ค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์ฮาโดรซอร์ที่สมบูรณ์มากกว่า 10 ตัวอย่าง นักวิทยาศาสตร์ประมาณว่าพื้นที่นี้ยังมีฟอสซิลที่ยังไม่ได้ขุดค้นอีกไม่ต่ำกว่า 100 ชิ้น
จีนจัดตั้งอุทยานธรณีไดโนเสาร์แห่งชาติแห่งแรกของประเทศที่อำเภอเจียอินเมื่อปี พ.ศ. 2544 อุทยานมีพื้นที่ครอบคลุม 38.44 ตารางกิโลเมตร และทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การศึกษา และการท่องเที่ยว
ภายในอุทยานมีพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์เสินโจวและ “สวนรูปปั้นนักบรรพชีวินวิทยา” ที่จัดแสดงรูปปั้นของนักบรรพชีวินวิทยาชั้นนำ 24 ท่าน โดยครึ่งหนึ่งเป็นชาวต่างชาติ
งานเสวนาและความร่วมมือระหว่างประเทศ
งานเสวนาฟอสซิลเจียอิน ครั้งที่ 4 และการประชุมวิชาการด้านธรณีวิทยาการท่องเที่ยว จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27-28 สิงหาคม โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ สมาคมบรรพชีวินวิทยาแห่งประเทศจีน ห้องปฏิบัติการหลักด้านวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตในอดีต กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติจีน และรัฐบาลอำเภอเจียอิน
งานเสวนานี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 โดยเคยจัดมาแล้วในปี พ.ศ. 2560, 2562 และ 2566 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ฟอสซิล สนับสนุนการวิจัย การให้ความรู้แก่ประชาชน และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ
หวัง จวิน ประธานสมาคมบรรพชีวินวิทยาจีน กล่าวว่าอำเภอเจียอินไม่เพียงเป็นแหล่งฟอสซิลสำคัญ แต่ยังทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมความร่วมมือระหว่างประเทศ งานเสวนานี้แสดงให้เห็นว่าบรรพชีวินวิทยาเป็นศาสตร์ที่ไม่มีพรมแดนและเติบโตผ่านการแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกัน
การจัดงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของจีนในการพัฒนาอุทยานธรณีไดโนเสาร์ให้เป็นศูนย์กลางการวิจัยและการศึกษาระดับสากล โดยใช้ความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนา