จุดเด่นของไรโน.เอไอคือการผสมผสาน AI ตัวแทนเข้ากับความเชี่ยวชาญของมนุษย์ เพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงระบบเดิมที่ซับซ้อนให้เป็นแอปพลิเคชันใหม่โดยอัตโนมัติ ครอบคลุมทุกขั้นตอนตั้งแต่การวิเคราะห์เชิงลึกไปจนถึงการพัฒนา ช่วยลดระยะเวลาจากหลายปีเหลือเพียงไม่กี่เดือน
แพลตฟอร์มของไรโน.เอไอเป็นรายแรกที่เชื่อมโยงการทำงานระหว่างทีมธุรกิจ นักพัฒนา และผู้รวมระบบ ผ่านกระบวนการที่ขับเคลื่อนด้วย AI ใช้สถาปัตยกรรมเอเจนต์-กราฟที่ผสานโมเดลภาษาขนาดใหญ่ชั้นนำกับ LLM ที่พัฒนาเอง ทำให้องค์กรปรับปรุงระบบได้รวดเร็วและแม่นยำ
อดัม แบรนช์ (Adam Branch) ซีอีโอของไรโน.เอไอ กล่าวว่า “การพลิกโฉมระบบองค์กรนั้นต้องอาศัยมากกว่าแค่การทำให้เกิดกระบวนการอัตโนมัติเฉพาะจุด แพลตฟอร์มของเราจัดการทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่การค้นคว้าไปจนถึงการติดตั้งใช้งาน ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ เปลี่ยนผ่านสู่สถาปัตยกรรมที่ทันสมัยได้อย่างราบรื่น โดยไม่ติดข้อจำกัดของระบบกรรมสิทธิ์”
ตลาดการปรับปรุงระบบเก่าทั่วโลกคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 5.83 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2570 สะท้อนความจำเป็นเร่งด่วนที่องค์กรต้องปรับเปลี่ยนสู่โครงสร้างพื้นฐานที่ยืดหยุ่น แพลตฟอร์มของไรโน.เอไอรองรับการปรับปรุงแอปพลิเคชันหลากหลายรูปแบบ ทั้งระบบ low-code/no-code ไมโครเซอร์วิส และระบบคลาวด์ต่างๆ
ไบรอน ไนท์ (Byron Knight) ประธานคอช ดิสรัปทีฟ เทคโนโลยีส์ กล่าวว่า “แนวทางที่เป็นนวัตกรรมของไรโน.เอไอ ในการพลิกโฉมระบบเก่าให้ทันสมัยนั้น สอดคล้องอย่างยิ่งกับความต้องการเร่งด่วนในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในทุกอุตสาหกรรม”
“ความร่วมมือครั้งนี้กับไรโน.เอไอ สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องไปสู่การใช้ AI ในการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ดิจิทัล” แมตต์ โฮก (Matt Hoag) ซีทีโอของคอช กล่าว “การใช้ตัวแทน AI จัดการกับภาระทางเทคนิคอย่างมีประสิทธิภาพนั้น ไม่เพียงช่วยเราประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย แต่ยังเปิดโอกาสให้นักพัฒนาที่มีความสามารถของเราได้มุ่งเน้นไปที่การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ อีกด้วย”